สมาร์ตกลาสบูม! ทุกค่ายแห่ลงสนาม จากยักษ์ใหญ่อย่าง Meta, Google, Apple ถึงสตาร์ตอัพหน้าใหม่
สมาร์ตกลาสบูม! ทุกค่ายแห่ลงสนาม จากยักษ์ใหญ่อย่าง Meta, Google, Apple ถึงสตาร์ตอัพหน้าใหม่
สมาร์ตกลาสกำลังกลายเป็นตลาดดิจิทัลที่ร้อนแรงที่สุดในปี พ.ศ. 2568 ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Meta, Google, Apple, Amazon หรือแม้แต่สตาร์ตอัพหน้าใหม่ ล้วนกระโดดเข้ามาแข่งกันเต็มที่
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สมาร์ตกลาสแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลัก:
- Displayless Smart Glasses – แว่นอัจฉริยะไร้จอ เน้นเสียง/กล้อง/AI
- HUD Glasses – แสดงข้อมูลผ่านจอเล็กในเลนส์
- True AR Glasses – วางวัตถุเสมือนในโลกจริง
- Virtual Monitor Glasses (Xreal & Viture) – ใช้แทนทีวีหรือจอคอม
1) Displayless Smart Glasses – สมาร์ตกลาสไร้จอ
กลุ่มนี้คือแว่นที่เน้นฟังก์ชันเสียง กล้อง และ AI โดยไม่มีจอแสดงผล
Pivothead (พ.ศ. 2555) : กล้อง 1080p ติดกลางแว่น
Epiphany Eyewear (พ.ศ. 2556) → Snap ซื้อกิจการ และต่อยอดเป็น Spectacles (พ.ศ. 2559–2562)
Amazon Echo Frames (พ.ศ. 2562) : ฟังเพลง–พอดแคสต์ แต่ไม่มีกล้อง
Ray-Ban Stories (พ.ศ. 2564) : Meta + EssilorLuxottica ผนึกกำลังครั้งแรก
รุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง:
Solos AirGo V2 – AI Models: ChatGPT / Claude / Gemini / DeepSeek | Q4/2568 | $300 ≈ 11,000 บาท
Solos เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาในปี 2019 จาก Kopin บริษัทไมโครดิสเพลย์ที่จัดหาอุปกรณ์ให้กับกองทัพเป็นหลัก ปีที่แล้วได้เปิดตัว AirGo Vision เพื่อแข่งขันกับ Ray-Ban Meta โดยตรง แต่มาพร้อมกับ GPT-4o และในปีนี้ก็กำลังเปิดตัว AirGo V2 ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอด
Xiaomi AI Glasses – AI Models : XiaoAI | ก.ค. 2568 | ~$300 ≈ 11,000 บาท | วางขายเฉพาะจีน
Xiaomi ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน ที่ผลิตทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ตโฟน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไปจนถึงล่าสุด… รถยนต์ไฟฟ้า หลายคนอาจไม่รู้ว่า Xiaomi เคยมีบทบาทในวงการ VR ด้วยนะครับ เพราะพวกเขาเป็นผู้ผลิต Oculus Go เฮดเซต VR แบบสแตนด์อโลนรุ่นแรกของ Facebook (ปัจจุบันคือ Meta) อีกด้วย
HTC Vive Eagle – AI Models : Gemini / ChatGPT | ก.ย. 2568 | ~$550 ≈ 20,000 บาท | ไต้หวันเท่านั้น
แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา HTC จะหันไปโฟกัสตลาด VR ภาคธุรกิจ (Enterprise) เป็นหลัก แต่เมื่อพูดถึง สมาร์ตกลาส บริษัทกลับเลือกจับกลุ่ม ผู้บริโภค (Consumer) โดยตรง โดยเริ่มต้นจาก “ถิ่นกำเนิด” ของตัวเองที่ไต้หวัน
Mentra Live – ธ.ค. 2568 | $300 (≈ 11,000 บาท) / พรีออเดอร์ $250 (≈ 9,200 บาท) | สหรัฐฯ เท่านั้น
จุดเด่นที่ทำให้ Mentra Live แตกต่างจากสมาร์ตกลาสที่ไม่มีจอแสดงผลรุ่นอื่น ๆ ก็คือ มาพร้อม ระบบปฏิบัติการ (OS) และ SDK แบบโอเพนซอร์ส ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาทุกคนสามารถสร้างแอปฯ ได้อย่างอิสระและง่ายดาย
Waves Camera Glasses – พ.ศ. 2569 | $300–500 ≈ 11,000–18,000 บาท | ขายทั่วโลก
จุดขายหลักที่บริษัทโปรโมตของ Waves Smart Glasses คือ… ไม่มีไฟแสดงสถานะกล้อง
ซึ่งหมายความว่าคนรอบข้างจะไม่รู้เลยว่าคุณกำลังบันทึกภาพหรือวิดีโออยู่
* ฟีเจอร์นี้เองที่กลายเป็นประเด็นร้อน และสร้างกระแสถกเถียงอย่างมากในสังคม
JioFrames – อินเดีย, ราคาและกำหนดยังไม่เปิดเผย
Jio ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย
มีรายงานว่ากำลังพิจารณาเปิดตัว เฮดเซตราคาประหยัด ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Horizon OS ภายในประเทศอีกด้วย
2) HUD Glasses – แว่นแจ้งข้อมูล (Head-Up Display)
แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น แจ้งเตือน เส้นทาง หรือคำแปล โดยใช้จอเล็กในเลนส์
- North Focals (พ.ศ. 2562) – จอสี–ตาเดียว, ราคา $600 ≈ 22,000 บาท → ถูก Google ซื้อ
- Even G1 (พ.ศ. 2568) – จอเขียว–สองตา, เบา 40 กรัม, ราคา $600 ≈ 22,000 บาท
- Brilliant Labs Halo (พ.ศ. 2568) – จอสี–ตาเดียว, เปิดพรีออเดอร์ $300 ≈ 11,000 บาท, ระบบเปิดให้นักพัฒนาทำแอพได้
- Rokid Glasses (พ.ศ. 2568) – จอเขียว–สองตา, ราคา $600 ≈ 22,000 บาท
- Halliday Glasses (พ.ศ. 2568) – จอเขียว–ตาเดียว, ราคา $500 ≈ 18,000 บาท
- XRAI AR2 / INMO GO 2 (พ.ศ. 2568) – จอเขียว–สองตา
- Amazon HUD Glasses (พ.ศ. 2569–2570) – แยก 2 รุ่น:
✦ สำหรับพนักงานส่งของ → จอเขียว–ใหญ่
✦ สำหรับผู้บริโภค → จอสี–บางเบา
👉 ไฮไลต์สำคัญคือ Meta Hypernova (ข่าวลือ) – HUD Glasses แบบตาเดียว จอสี + สายรัดข้อมือ sEMG ควบคุมด้วยสัญญาณกล้ามเนื้อ คาดเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
ตารางสรุป HUD Glasses
| รุ่น | จอสี (Full Color) | จอสองตา (Binocular) |
|---|---|---|
| Meta Hypernova (ข่าวลือ) | ✅ | ❌ |
| North Focals | ✅ | ❌ |
| Even G1 | ❌ (เขียว) | ✅ |
| Brilliant Labs Halo | ✅ | ❌ |
| Rokid Glasses | ❌ (เขียว) | ✅ |
| XRAI AR2 | ❌ (เขียว) | ✅ |
| INMO GO 2 | ❌ (เขียว) | ✅ |
| Halliday Glasses | ❌ (เขียว) | ❌ |
| Amazon HUD (ข่าวลือ) | ✅ | ❌ |
3) True AR Glasses – แว่น AR ของจริง
แม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่เริ่มเข้าใกล้ความเป็น “แว่นผู้บริโภค” มากขึ้น
- RayNeo X3 Pro – พ.ค./2568 | ~ $1,300 ≈ 48,000 บาท | น้ำหนัก ~80 กรัม | วางขายในจีน
- Snap Specs (พ.ศ. 2569) – แว่น AR รุ่นผู้บริโภคจริงครั้งแรกของ Snap หลังพัฒนามา 10 ปี
4) Virtual Monitor Glasses – จอเสมือน (Xreal & Viture)
ไม่ใช่ HUD Glasses แต่ถือเป็นผู้เล่นหลักที่ดันตลาดให้โต โดยเน้น “จอใหญ่” ใช้แทนทีวีหรือมอนิเตอร์
- Xreal (เดิม Nreal)
✦ เจ้าตลาด Virtual Monitor
✦ แสดงผลจอเสมือนขนาดใหญ่สุด ~330 นิ้ว
✦ มีแอพ Nebula รองรับมือถือ/PC/คอนโซล
✦ ล่าสุดออก Xreal One / One Pro (พ.ศ. 2568) – เบากว่า คมชัดขึ้น และใกล้ AR จริงขึ้น - Viture
✦ คู่แข่งมาแรง เปิดตัว Viture One และ Viture Pro XR
✦ ล่าสุด Viture Luma Pro (พ.ศ. 2568) – มีฟีเจอร์ 2D-to-3D แปลงหนัง/เกมเป็นสามมิติ
✦ ได้แรงหนุนจากนักลงทุน – ปิดดีลทุน $100M ≈ 3,700 ล้านบาท
ความต่างชัดเจน:
- HUD Glasses → ใส่เดินถนนได้, เน้นข้อมูล+AI
- Virtual Monitor Glasses → ใส่เล่นเกม/ดูหนัง, ใช้แทนทีวีหรือจอคอม แต่ไม่เหมาะเป็นแว่นประจำวัน
สรุป
ตลาดสมาร์ตกลาสกำลังแตกแขนงชัดเจน:
- ไร้จอ → แข่งเรื่อง AI + ระบบเสียง
- HUD → แข่งเรื่องข้อมูลเรียลไทม์และดีไซน์บางเบา
- AR → กำลังใกล้จริง แต่ยังท้าทายด้านเทคโนโลยี
- Virtual Monitor → ยึดฐานความบันเทิงและงาน Productivity
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า สมาร์ตกลาสอาจไม่ใช่ “ของเล่นล้ำ ๆ” อีกต่อไป แต่จะกลายเป็น สมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ที่ทุกคนต้องมีติดตัว
ที่มา
uploadvr
