Maidev XR

MaidevXR เว็บบล็อก เกี่ยวกับเรื่อง XR – MR – AR – VR – AI – IT ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เกม และ เทคโนโลยี

ByteDance ดันแว่น MR เบาเท่า Bigscreen Beyond ชน Meta – Google ศึกใหม่แว่นอัจฉริยะขับเคี่ยวตลาด

ByteDance ดันแว่น MR เบาเท่า Bigscreen Beyond ชน Meta - Google ศึกใหม่แว่นอัจฉริยะขับเคี่ยวตลาด

ByteDance ดันแว่น MR เบาเท่า Bigscreen Beyond ชน Meta - Google ศึกใหม่แว่นอัจฉริยะขับเคี่ยวตลาด

เมื่อ Pico ในเครือ ByteDance หันซุ่มพัฒนาแว่น MR น้ำหนักเบา
ท่ามกลางกระแส Meta และ Google แข่งดันแว่นอัจฉริยะ ผสานพลัง AI

ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังเดินหน้าพัฒนา แว่น Mixed Reality (MR) รุ่นใหม่ที่มาในรูปทรงคล้ายแว่นตา ตามรายงานล่าสุดจาก The Information เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงใน 3 แหล่ง ซึ่งยืนยันว่า ByteDance กำลังพยายามก้าวตามรอย Meta ที่ก็ซุ่มพัฒนาแว่น MR แบบเดียวกันเช่นกัน

แว่น MR ของ ByteDance จะใช้แนวคิดการซ้อนภาพดิจิทัลบนภาพจริง เพื่อใช้งานทั้งด้านความบันเทิงและการทำงาน ต่างจากแนวทางของบริษัทใหญ่อย่าง Apple และ Meta ที่ผ่านมาซึ่งเน้น ชุดเฮดเซต MR ขนาดใหญ่ ที่กลับได้รับกระแสตอบรับไม่หวือหวาจากผู้ใช้มากนัก

The Information วิเคราะห์ว่า ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มต้องการอุปกรณ์แบบแว่นน้ำหนักเบา ถึงแม้ประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่าชุดเฮดเซตเต็มรูปแบบก็ตาม ซึ่ง Meta เองก็เพิ่งยกเลิกโครงการ Quest รุ่นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2567 เพื่อหันมาพัฒนาแว่น MR ทรงกูเกิลอย่างจริงจังภายใต้โปรเจกต์ที่ใช้โค้ดเนมว่า Phoenix พร้อมกับปล่อย แว่นอัจฉริยะ Ray-Ban Meta ที่ The Information ระบุว่ามีกระแสตอบรับด้านยอดขายดีเกินคาด

ทางด้าน ByteDance แม้ช่วงที่ผ่านมา Pico ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านฮาร์ดแวร์ AR/VR ของบริษัทจะต้องลดการลงทุนในตลาด VR ลง หลังยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า โดยเมื่อปี พ.ศ. 2566 ByteDance ถึงขั้นยกเลิกการเปิดตัว ชุดเฮดเซต VR รุ่นเรือธง ที่กำหนดไว้เดิม เพื่อปรับโฟกัสไปพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ที่ทะเยอทะยานยิ่งกว่าเดิม

รายงานระบุว่า แว่น MR รุ่นใหม่นี้จะมีน้ำหนักเบาพอ ๆ กับ Bigscreen Beyond VR ที่หนักเพียง 0.28 ปอนด์ (ประมาณ 127 กรัม) ซึ่ง Pico ใช้วิธีทำให้อุปกรณ์เบาด้วยการแยกการประมวลผลไปอยู่ใน กล่องประมวลผล (puck) ที่เชื่อมต่อกับตัวแว่นผ่านสายไฟ คล้ายกับแนวคิดของ Meta ที่เคยโชว์แว่นต้นแบบ Orion AR พร้อม puck ไร้สายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือ Pico กำลังพัฒนาชิปเฉพาะ เพื่อช่วยประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ในแว่น ลดความหน่วง (latency) ระหว่างสิ่งที่ผู้ใช้เห็นบนภาพ AR กับการเคลื่อนไหวจริง ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหลมากขึ้น

นอกจาก ByteDance และ Meta แล้ว ยักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็ประกาศในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ว่า แว่นอัจฉริยะในอนาคตจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android XR ผสานกับโมเดล AI อย่าง Gemini เพื่อให้กลายเป็นผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่ “มองโลกในมุมเดียวกับผู้ใช้” Google จับมือแบรนด์แว่นตาชื่อดังอย่าง Gentle Monster และ Warby Parker เพื่อพัฒนาแว่นที่ทั้งล้ำสมัยและใส่สบายได้ทั้งวัน

Shahram Izadi รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Android XR ที่ Google เขียนในบล็อกบริษัทว่า

“ถ้าแอพผู้ช่วย AI ของคุณมองเห็นโลกผ่านสายตาคุณได้ และช่วยเหลือคุณแบบแฮนด์ฟรี นั่นแหละคือวิสัยทัศน์ที่กำลังขับเคลื่อน Android XR ของเรา”

ขณะที่ PYMNTS ก็เคยเขียนไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ว่า ตลาด แว่นอัจฉริยะ กำลังบูมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาให้มี AI ขับเคลื่อนอยู่ภายใน และดีไซน์ให้กลมกลืนกับแฟชั่นในชีวิตประจำวันจนใส่เดินที่ไหนก็ไม่ดูแปลกตา

แม้ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า แว่น MR ของ ByteDance/Pico จะเปิดตัวเมื่อใด หรือจะวางจำหน่ายในประเทศไหน เพราะ ชุดเฮดเซต Pico เองก็ยังไม่ได้วางขายในสหรัฐอเมริกา อีกทั้ง ByteDance ยังต้องเผชิญความกังวลด้านความมั่นคงจากการถือครอง TikTok ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรุกตลาดสหรัฐฯ

แต่ที่แน่ ๆ ศึก แว่น MR และ แว่นอัจฉริยะ กำลังเดือดขึ้นทุกขณะ และเราคงได้เห็นการปะทะกันครั้งใหญ่ระหว่าง Meta, Google และ ByteDance ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แน่นอนครับ

ที่มา
theinformation

engadget