Meta เปลี่ยนระบบขอบเขต VR บน Quest แบบใหม่ แต่กลับเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิม ลดความยุ่งยาก แต่แลกมาด้วยความปลอดภัยที่หายไป โดยไม่มีเซ็นเซอร์แบบ Apple Vision Pro มาช่วย
1 min read
Meta เปลี่ยนระบบขอบเขต VR บน Quest แบบใหม่ แต่กลับเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิม ลดความยุ่งยาก แต่แลกมาด้วยความปลอดภัยที่หายไป โดยไม่มีเซ็นเซอร์แบบ Apple Vision Pro มาช่วย
หลังจากเปลี่ยนระบบขอบเขต (Boundary) บนชุดเฮดเซต Meta Quest ทั้งรุ่น 3 และ 3S ความสะดวกในการเข้า VR เพิ่มขึ้น แต่กลับมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแบบน่ากังวล โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่
จุดเปลี่ยนที่อาจเป็นจุดพลาด
ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา Meta ได้ทยอยปรับระบบขอบเขตของ Quest ใหม่หมด โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าสู่โลก VR ได้เร็วขึ้น ไม่ต้องตั้งค่าทุกครั้งเหมือนแต่ก่อน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้กลับเป็น “การถอยหลังด้านความปลอดภัย” อย่างน่าเป็นห่วง
ระบบเก่า (ก่อนเปลี่ยน)
- เมื่อเปิดชุดเฮดเซต จะเริ่มจากโหมด passthrough (เห็นภาพรอบตัวจริง)
- หากยังไม่มีขอบเขต ระบบจะสแกนพื้นเพื่อแนะนำ “Roomscale boundary” หรือหากพื้นที่ไม่พอจะเสนอ “Stationary boundary”
- เมื่อใกล้ขอบเขต จะมีตารางสีเตือน (Guardian Grid) ชัดเจน
ระบบใหม่ (หลังเปลี่ยน)
- ไม่สแกนพื้น ไม่แจ้งเตือนอะไรทั้งสิ้น
- จะกำหนด “Stationary boundary” ให้อัตโนมัติทันทีที่เข้าสู่ VR
- ถ้าต้องการใช้ Roomscale ต้องเข้า Quick Settings ไปเปลี่ยนเอง
- ที่แย่กว่านั้น: ไม่มีตารางสีเตือนอีกต่อไป แค่เปลี่ยนเป็น passthrough ทันทีเมื่อออกนอกขอบเขต ซึ่งเกิดขึ้น “ช้ากว่าเดิม” และปล่อยให้ผู้ใช้ “หลุด” ไปไกลกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

Meta สื่อสารคลุมเครือ
จากบันทึกอัพเดท Horizon OS v72 Meta แจ้งเพียงว่า:
“เมื่อเข้า VR จะได้รับ Stationary boundary อัตโนมัติ และจะใช้ Roomscale หากมีการตั้งไว้แล้ว”
แต่ในการทดสอบจริงกับ Quest หลายเครื่อง กลับไม่มีการแจ้งเตือนหรือเลือกขอบเขตใด ๆ ทั้งสิ้น
ปัญหาอยู่ที่ “Quest ไม่มี LiDAR” เหมือน Vision Pro
Apple Vision Pro ใช้ LiDAR ติดตัวตลอดเวลา ตรวจจับวัตถุจริงรอบตัวและค่อย ๆ แสดง passthrough ได้แม่นยำ
แต่ Quest ไม่มีเซ็นเซอร์แบบนั้น ใช้แค่การประมวลผลภาพด้วยกล้องซึ่งกินแบตและพลังประมวลผลสูง ทำให้แอพส่วนใหญ่ไม่รองรับ
นั่นหมายความว่า… Meta พยายามจะทำประสบการณ์แบบ “เข้า VR ได้ทันทีแบบไร้รอยต่อ” เหมือน Apple แต่ไม่มีเทคโนโลยีรองรับความปลอดภัยแบบเดียวกัน
สรุป: นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก
การตัดตารางสี Guardian ออก และใช้ Stationary boundary เป็นค่าเริ่มต้นโดยไม่มีเตือน ถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ โดยเฉพาะกับผู้ใช้หน้าใหม่
Meta ควรพิจารณานำตารางสี Guardian กลับมา หรือใส่ตัววัดความลึกแบบฮาร์ดแวร์ เหมือนกับที่ ByteDance ทำใน PICO 4 Ultra
ในระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรงแบบนี้ Meta ควรเลือก “ปลอดภัยไว้ก่อน” ไม่ใช่ “สะดวกไว้ก่อน”
มีคอมเมนต์บางส่วนจากผู้ใช้บนเว็บ Upload VR
🔧 ความสะดวกที่กลายเป็นปัญหา
จากเสียงผู้ใช้จริง:
- มีผู้ใช้จำนวนมากบ่นว่า “ต้องตั้งค่าขอบเขตใหม่แทบทุกครั้ง” โดยเฉพาะเมื่อสลับแอพหรือเปลี่ยนตำแหน่งในห้อง ทำให้การใช้งานมี “แรงเสียดทานมากขึ้น” แทนที่จะน้อยลง
- หลายคนพบว่าระบบเปลี่ยนจาก Roomscale เป็น Stationary โดยอัตโนมัติ โดยไม่มีการแจ้งเตือน ทำให้เผลอเดินเลยขอบเขตโดยไม่รู้ตัว
⚠️ ความปลอดภัยที่หายไป
- เดิมทีเมื่อเข้าใกล้ขอบเขต จะมีกริดสีเตือนชัดเจน แต่ระบบใหม่นี้กลับปล่อยให้เรา “เดินหลุด” ไปไกลกว่าจะเข้าสู่ passthrough
- บางคนเจอปัญหา boundary ขยับเอง เมื่อ “รีเซ็ตมุมมอง” ซึ่งอาจทำให้ขอบเขตใหม่ครอบพื้นที่ผิดจุดได้โดยไม่รู้ตัว – เสี่ยงอุบัติเหตุได้ง่ายมาก
🧠 ปัญหาที่น่าจะเป็นบั๊กหรือ UX ที่เปลี่ยนโดยไม่แจ้ง
หนึ่งในผู้ใช้ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า:
“Meta เคยใช้ flow ที่ Home เป็น Stationary แต่เมื่อเข้าแอพจะเปลี่ยนเป็น Roomscale อัตโนมัติ – แต่ใน v77+ ระบบนี้หายไป ทำให้ขอบเขตไม่เปลี่ยนแม้จะเข้าแอพใหม่”
“สิ่งที่ Meta ทำไม่ต่างจากพยายามเลียนแบบ Vision Pro ของ Apple แต่ไม่มี LiDAR หรือระบบตรวจจับความลึกจริงแบบเรียลไทม์มาเสริมความปลอดภัยเลย”
🪑 ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่น
- ผู้เล่นที่ “นั่งเล่นเป็นหลัก” กลับชื่นชอบระบบใหม่นี้ เพราะไม่ต้องตั้งค่าทุกครั้ง
- แต่ผู้ที่ “ยืนเล่น” หรือ “เล่นแบบ Roomscale” มองว่าเป็นการถอยหลังด้านความปลอดภัยชัดเจน
- มีคนบอกตรง ๆ ว่า “ถ้าเจ็บตัวเพราะ VR ก็ไม่ควรเล่น VR” ซึ่งแม้จะจริงบางส่วน แต่ก็สะท้อนความไม่เข้าใจถึงความสำคัญของระบบ guardian ที่ควรช่วยป้องกันอุบัติเหตุ
📉 เสียงสะท้อนต่อ Meta: “Meta กำลังทำลาย VR ด้วยตัวเอง”
มีผู้ใช้เปรียบเทียบกับแนวคิดของ Valve ว่า:
“Valve ชอบทำช้าแต่ไม่ทำพัง ส่วน Meta เลือก ‘รีบทำ รีบพัง’ โดยไม่คำนึงถึงผู้ใช้จริง”
ขณะที่อีกคนแสดงความหงุดหงิดกับการที่ Meta ไม่เคยแก้ไขปัญหา การจำตำแหน่งขอบเขตในบ้านสองชั้น ที่เกิดมานานหลายปีแล้ว
🧠 ข้อเสนอจากผู้ใช้
- บางคนเสนอว่า Meta ควรใช้ AI วิเคราะห์ passthrough จากกล้อง เพื่อช่วยตั้งค่าขอบเขตให้ง่ายและแม่นยำขึ้น เหมือนกับแนวทางที่ Apple ใช้
- หรือควรนำกริดสีเดิมกลับมาแสดง เพื่อช่วยเตือนขอบเขตจริงในโลกเสมือน
- หลายเสียงยังชี้ว่า “PICO OS ทำระบบนี้ได้ดีกว่า” เพราะมีการแยก Home กับแอพอย่างชัดเจน และไม่อนุญาตให้ใช้ Stationary ในแอพเลยเพื่อความปลอดภัย
🔚 สรุป: ความสะดวกต้องไม่แลกกับความปลอดภัย
Meta อาจพยายามลดขั้นตอนให้ผู้ใช้เข้าสู่โลก VR ได้ง่ายขึ้น แต่นั่นไม่ควรเกิดขึ้นบน “ต้นทุนของความปลอดภัย”
เมื่อระบบ boundary เป็นจุดตั้งต้นของประสบการณ์ VR – หากพลาดตรงนี้ ความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ก็อาจหายไปอย่างถาวร
ที่มา
https://www.uploadvr.com/quest-new-boundary-system-is-a-dangerous-safety-regression/