Ray-Ban Meta ปะทะ Oakley Meta HSTNศึกแว่นอัจฉริยะแห่งปี พ.ศ. 2568 ใครคุ้มกว่ากัน? เมื่อแว่นตากลายเป็นสมาร์ทแกดเจ็ตจะเลือกสายแฟชั่น หรือสายแอคทีฟดี?

Ray-Ban Meta ปะทะ Oakley Meta HSTNศึกแว่นอัจฉริยะแห่งปี พ.ศ. 2568 ใครคุ้มกว่ากัน? เมื่อแว่นตากลายเป็นสมาร์ทแกดเจ็ตจะเลือกสายแฟชั่น หรือสายแอคทีฟดี?
Ray-Ban Meta สายแฟชั่น ราคาเบาๆ หรือ Oakley Meta HSTN สายสปอร์ต อึด ถึก ทน
มาดูกันว่าเงินของคุณควรอยู่ที่รุ่นไหน แว่นอัจฉริยะกำลังจะเปลี่ยนโลกในปี พ.ศ. 2568!
ตลาด แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) ในปี พ.ศ. 2568 คึกคักสุด ๆ โดย Meta จับมือ EssilorLuxottica ปล่อยสินค้าตระกูล Ray-Ban Meta ที่ทำยอดขายไปแล้วกว่า 2 ล้านชิ้น นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2566
ล่าสุด Meta ไม่หยุดแค่นั้น ส่ง Oakley Meta HSTN ลงตลาด เอาใจสายสปอร์ตแบบจัดเต็ม แต่ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันอย่างไร และรุ่นไหนคุ้มค่ากับเงินที่คุณจะจ่าย มาดูกันครับ
ดีไซน์: แฟชั่น vs ฟังก์ชัน
Ray-Ban Meta ยังคงเอกลักษณ์ Wayfarer อันคลาสสิก พร้อมดีไซน์เรียบหรู ไม่เสียทรงเดิมแม้ซ่อนกล้อง ลำโพง และชิปประมวลผลไว้ในตัว เลือกได้หลายทรงทั้ง Wayfarer, Round และ Headliner ถูกใจสายแฟชั่นที่อยากใส่แว่นอัจฉริยะโดยไม่ดู “ล้ำ” เกินไป
ส่วน Oakley Meta HSTN (อ่านว่า “เฮาส์ตัน”) คืออีกโลกหนึ่ง ดีไซน์เข้ม แข็ง และดูสปอร์ตมากกว่า มาพร้อมความทนทานระดับ IPX4 กันน้ำ กันเหงื่อ ใส่ลุยฟิตเนส หรือวิ่งกลางฝนได้แบบไม่ต้องกลัวเสียหาย ซึ่ง Ray-Ban Meta ไม่มีคุณสมบัตินี้
จุดต่างที่ใหญ่ที่สุด คือ ความทนทาน Oakley ชัดเจนว่าทำมาเพื่อสายแอคทีฟจริง ๆ

สเปกภายใน: ใครเหนือกว่า?
กล้องถ่ายรูปและวิดีโอ
ทั้งสองรุ่นมี กล้อง 12MP Ultra-Wide แต่ต่างกันที่วิดีโอ:
- Ray-Ban Meta ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD (1080p) ต่อคลิปไม่เกิน 3 นาที
- Oakley Meta HSTN ขยับขึ้นเป็น 3K (Ultra HD) ในระยะเวลาเท่ากัน ภาพชัด สีสด โดยเฉพาะตอนถ่ายกลางแจ้งหรือถ่ายวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว
ถ้าเน้นคอนเทนต์ ลงโซเชียล หรือ Vlog รุ่น Oakley คือชนะขาด
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ปัญหาคลาสสิกของแว่นอัจฉริยะคือแบตหมดเร็ว ซึ่ง Ray-Ban Meta ใช้งานได้ราว 4 ชั่วโมง ถ้าใช้เยอะต้องพกเคสชาร์จที่เพิ่มพลังได้อีก 36 ชั่วโมง
Oakley Meta HSTN ดีกว่าชัดเจน ใช้ได้ 8 ชั่วโมง ต่อเนื่อง สแตนด์บายสูงสุด 19 ชั่วโมง เคสชาร์จเก็บไฟได้ 48 ชั่วโมง และชาร์จไว 50% ใน 20 นาที เหมาะกับคนต้องใช้ทั้งวัน
ระบบเสียง
ทั้งสองรุ่นใช้ระบบ Open-Ear Audio ฟังเพลง รับสาย หรือคุยกับผู้ช่วย AI ได้โดยไม่ปิดเสียงรอบข้าง ปลอดภัยเวลาเดินถนน เสียงใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่แทนหูฟังดี ๆ ได้สำหรับคนหูเทพ
ฟีเจอร์ AI: ฉลาดเท่ากัน
ทั้ง Ray-Ban และ Oakley ใช้ Meta AI ตัวเดียวกัน สั่งงานด้วยเสียง “Hey Meta” หรือกดที่ก้านแว่น ทำได้หลายอย่าง เช่น:
- แปลภาษา
- บอกสถานที่หรือสิ่งของที่มองเห็น
- ควบคุมโซเชียลมีเดีย
- อัพเดทซอฟต์แวร์ทุกเดือน (Meta เรียกว่า “อัพเดท”)
สรุปคือ ทั้งสองรุ่นฉลาดเท่ากัน ต่างกันที่ฮาร์ดแวร์ล้วน ๆ
ความเป็นส่วนตัว: ประเด็นร้อน
ทั้งสองรุ่นมีไฟ LED บอกว่ากำลังถ่ายรูปหรือวิดีโอ แต่ไฟเล็กมาก หลายคนยังมองว่าเสี่ยงต่อการถูกแอบถ่าย Meta กำลังหาทางแก้ เช่น ทำไฟให้ใหญ่ขึ้น หรือเพิ่มการแจ้งเตือนให้ชัดกว่านี้
ใครคิดจะใส่แว่นกล้อง ต้องระวังว่าไม่ใช่ทุกที่หรือทุกคนจะโอเคกับการถูกถ่ายนะครับ
ราคา: คุ้มค่าแค่ไหน?
- Ray-Ban Meta เริ่มต้นที่ $299 (ประมาณ 10,764 บาท) รุ่นท็อปสุดอยู่ที่ $379 (ประมาณ 13,644 บาท)
- Oakley Meta HSTN เริ่มที่ $399 (ประมาณ 14,364 บาท) รุ่นลิมิเต็ดสูงสุดที่ $499 (ประมาณ 17,964 บาท)
ถ้างบจำกัด Ray-Ban Meta คุ้มกว่า แต่ถ้าสายลุย ใช้หนัก ถ่ายวิดีโอเยอะ และอยากได้แบตอึด Oakley Meta HSTN สมราคาครับ
ใช้งานจริง: ความต่างที่สัมผัสได้
Ray-Ban Meta ได้ใจสายแฟชั่น ใส่ได้ทุกวัน ไม่สะดุดตา แต่แบตหมดไวมาก ใช้งานจริงราว 3.5 ชั่วโมงถ้าใช้ AI หรือถ่ายวิดีโอเยอะ
Oakley Meta HSTN อึดสุด พกไปปีนเขาได้ทั้งวัน ถ่ายวิดีโอ 3K คมชัด สีสด โดยเฉพาะกลางแดด ถือว่าตอบโจทย์คอนเทนต์ครีเอเตอร์สุด ๆ
สรุป: เลือกอันไหนดี?
เลือก Ray-Ban Meta ถ้า:
- ชอบดีไซน์คลาสสิก
- งบไม่สูงมาก
- ใช้ใส่เล่น ๆ ในชีวิตประจำวัน
- เน้นแฟชั่นมากกว่าฟังก์ชัน
เลือก Oakley Meta HSTN ถ้า:
- เป็นสายสปอร์ต หรือชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
- ต้องถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง
- อยากได้แบตใช้งานยาว ๆ ทั้งวัน
- ไม่ติดจ่ายแพงขึ้น เพื่อได้ของที่ดีกว่า
Oakley Meta HSTN คือก้าวใหม่ของแว่นอัจฉริยะในปี พ.ศ. 2568 ที่อุดจุดอ่อนของ Ray-Ban Meta เกือบหมด แต่ถ้างบจำกัด หรือเน้นใส่หล่อ ใส่สวย Ray-Ban Meta ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
แว่นตาอัจฉริยะไม่ได้แค่เป็น “แกดเจ็ต” อีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา แล้วคุณล่ะ…จะเลือกใส่แว่นรุ่นไหนไปลุยโลกอนาคต?
ที่มา
yankodesign