เห็นเสียงได้ด้วยตา ONTELOPE Glass แว่นอัจฉริยะสุดล้ำที่แปลงเสียงเป็นแสง — พลิกโฉมโลกของการรับรู้เสียง จากการฟัง…สู่การมองเห็น — เมื่อเสียงถูกถ่ายทอดผ่านแสง เพื่อให้ทุกคนรับรู้ “การมีอยู่ของเสียง” อย่างเท่าเทียม
1 min read
เห็นเสียงได้ด้วยตา ONTELOPE Glass แว่นอัจฉริยะสุดล้ำที่แปลงเสียงเป็นแสง — พลิกโฉมโลกของการรับรู้เสียง จากการฟัง…สู่การมองเห็น — เมื่อเสียงถูกถ่ายทอดผ่านแสง เพื่อให้ทุกคนรับรู้ “การมีอยู่ของเสียง” อย่างเท่าเทียม
ONTELOPE Glass แว่นอัจฉริยะสุดล้ำที่แปลงเสียงเป็นแสง — พลิกโฉมโลกของการรับรู้เสียง
เทคโนโลยีขยายประสาทสัมผัสของมนุษย์มาถึงแล้ว — “ONTELOPE Glass” แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถ “มองเห็นเสียง” ได้จริง เตรียมเปิดระดมทุนในเดือนพฤศจิกายนนี้บนแพลตฟอร์ม GREEN FUNDING พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ววันนี้
จุดเริ่มต้นจากปัญหาสังคมสู่เทคโนโลยีเพื่อมนุษย์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหา “การสูญเสียการได้ยินจากการใช้หูฟังนานเกินไป” หรือ Earphone Hearing Loss กลายเป็นประเด็นสำคัญทางสาธารณสุข ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินยังต้องเผชิญอันตรายจากการไม่สามารถได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น เสียงรถ เสียงสัญญาณ หรือเสียงเรียกเตือนต่าง ๆ
องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2593 จะมีประชากรโลกกว่า 2.5 พันล้านคน หรือเกือบหนึ่งในสี่ของมนุษย์ทั้งหมด ที่จะมีความบกพร่องทางการได้ยินในระดับใดระดับหนึ่ง
กระแสตื่นตัวเรื่อง Diversity และ Inclusion หรือความเท่าเทียมทางสังคม จึงผลักดันให้เกิดการมอง “ปัญหาการได้ยิน” ไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะบุคคล แต่เป็นประเด็นที่ “สังคมทั้งหมดต้องร่วมรับผิดชอบ”
และนั่นคือจุดกำเนิดของ ONTELOPE Glass — แว่นที่ใช้เทคโนโลยีอัลกอริธึมใหม่สิทธิบัตรเฉพาะ เพื่อจำลองกลไก “สมองมนุษย์ในการได้ยินเสียง” และแปลงเสียงให้กลายเป็น “แสงที่มองเห็นได้ด้วยตา”
? เมื่อแสงคือภาษาใหม่ของเสียง
“ONTELOPE Glass” ออกแบบมาเพื่อให้ทั้งคนที่ได้ยินปกติและผู้บกพร่องทางการได้ยิน สามารถ “มองเห็น” การมีอยู่ของเสียงผ่านการเรืองแสงจากเลนส์ของแว่น
- สำหรับผู้มีปัญหาทางการได้ยิน แสงจะช่วยเตือนเสียงสำคัญในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงกริ่งประตู เสียงเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเสียงรถที่ใกล้เข้ามา
- สำหรับผู้ได้ยินปกติ จะสามารถสัมผัสเสียงในรูปแบบใหม่ เช่น เสียงหัวเราะ ดนตรี เสียงลม หรือเสียงนกร้อง ผ่านแสงสีที่เปล่งออกมาจากขาแว่น
นั่นหมายถึง การเปิดประตูสู่ “ภาษาแห่งประสาทสัมผัสร่วม” ที่ทุกคนเข้าใจได้ แม้ไม่ต้องได้ยินเสียงจริง ๆ
⚙️ กลไกอัจฉริยะ: เมื่อสมองและเทคโนโลยีคิดคล้ายกัน
ภายในกรอบแว่นประกอบด้วย ไมโครโฟนความไวสูงสองตัว ที่ติดตั้งไว้ทั้งซ้ายและขวา เพื่อเก็บเสียงจากสิ่งแวดล้อมแบบเรียลไทม์ แล้วส่งเข้าสู่อัลกอริธึมที่จำลองวิธีที่สมองมนุษย์ “แยกแยะเสียง”
ระบบจะวิเคราะห์ ความถี่ (Pitch), ความดัง (Volume) และ การเปลี่ยนแปลงตามเวลา ด้วยความเร็วสูง ก่อนจะแปลงเป็นสัญญาณแสงผ่าน LED ทั้งหมด 44 ดวง ที่ฝังอยู่ในขอบเลนส์
- เสียงความถี่ต่ำจะแสดงเป็น สีแดง
- เสียงกลางเป็น สีเขียว
- เสียงสูงเป็น สีน้ำเงินถึงม่วง
การไล่เฉดสีนี้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการรับรู้ทางประสาทสัมผัสของมนุษย์ ที่มักตีความเสียงเป็นสเปกตรัมคล้ายคลื่นแสง ทำให้สมองเข้าใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ
? แสงที่มีชีวิต ด้วยเทคโนโลยี ASA COLOR LED


หลอดไฟ LED ที่ใช้ในแว่นรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Asahi Rubber Co., Ltd. ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีออปติคและวัสดุยางชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้าง “ASA COLOR LED” รุ่นพิเศษที่ให้โทนแสงนุ่มนวล สบายตา และสามารถถ่ายทอด “อารมณ์ของเสียง” ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แสงแต่ละจุดจะเปลี่ยนสีและความเข้มแบบซิงก์กับการวิเคราะห์เสียง ทำให้เกิด “พื้นผิวของเสียง (Sound Texture)” ที่ผู้สวมใส่สามารถ “รู้สึก” ได้ผ่านสายตา
?️ ดีไซน์ที่ใส่ใจทั้งเทคโนโลยีและชีวิตประจำวัน


งานออกแบบโดย 83Design Co., Ltd. ทีมดีไซน์เนอร์ระดับโลกเจ้าของรางวัล Red Dot Gold Award, iF Design Award Best of the Best และ Good Design Award
รูปทรงของแว่นถูกสร้างให้ “เท่ เรียบง่าย และกลมกลืนกับชีวิตประจำวัน” รองรับการเปลี่ยนเลนส์สายตาหรือเลนส์กันแดดได้เหมือนแว่นทั่วไป ใช้วัสดุเรซินน้ำหนักเบา พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชาร์จผ่านพอร์ต USB-C
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth Low Energy (BLE) เพื่อปรับระดับความสว่างและโหมดการแสดงผลได้ผ่านแอพอย่างสะดวก
? โปรโมชั่นพิเศษ Super Early Bird
ผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าบนเว็บไซต์ Pre-registration site
จะได้รับสิทธิ์ซื้อในราคา พิเศษเพียง ¥29,800 (ประมาณ 6,900 บาท) ในช่วง Super Early Bird ซึ่งเป็นส่วนลดพิเศษตามจำนวนผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า
การลงทะเบียนนี้ยังไม่ถือเป็นการสั่งจองสินค้า แต่จะช่วยให้ผู้ลงทะเบียนได้รับอีเมลแจ้งเตือนทันทีเมื่อเปิดขายจริงอย่างเป็นทางการ
ถือเป็นโอกาสแรกของโลกที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยี “มองเห็นเสียง” ก่อนใคร
?? จากงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์จริง
ONTELOPE Glass เกิดจากผลงานวิจัยของ Shingo Sawada ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท ONTELOPE ซึ่งขณะศึกษาระดับบัณฑิตที่มหาวิทยาลัย Digital Hollywood University Graduate School ได้รับรางวัล MVP จากงานนำเสนอผลงานวิจัยระดับสถาบัน
Sawada ผสมผสานประสบการณ์ด้านวิศวกรรมวัสดุศาสตร์ เสียงดนตรี และศิลปะดิจิทัล มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จริงที่สะท้อนแนวคิด “เทคโนโลยีเพื่อการขยายมนุษย์” (Human Augmentation)
? วิสัยทัศน์สู่อนาคต: เทคโนโลยีที่ทุกคนรับรู้ได้
ONTELOPE ไม่ได้มองแว่นรุ่นนี้เพียงเป็นอุปกรณ์ช่วยฟัง แต่เป็น “เครื่องมือสร้างภาษาใหม่ของโลก” ที่ให้มนุษย์รับรู้เสียงร่วมกันผ่านแสง
อนาคตบริษัทมีแผนต่อยอดสู่การใช้งานหลากหลายด้าน ทั้ง
- เทคโนโลยีช่วยการได้ยิน (Hearing Assistive Tech)
- ศิลปะและดนตรีเชิงอินเทอร์แอคทีฟ
- การบำบัดและฝึกสมาธิด้วยเสียงและแสง
และจะมีความร่วมมือกับศิลปินในโครงการ Art × Science × Technology เพื่อผลักดันแนวคิด “เทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ” สู่ระดับโลก
? เปิดระดมทุนอย่างเป็นทางการ
ONTELOPE Glass จะเปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ GREEN FUNDING (ในเครือ CCC Group)
ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
? ลงทะเบียนล่วงหน้า: https://glass.ontelope.com/early-access/
? หน้าระดมทุนหลัก: http://greenfunding.jp/lab/projects/9018
? จุดสัมผัสประสบการณ์จริง
ONTELOPE จะจัดนิทรรศการให้ทดลองแว่นจริงใน 3 พื้นที่หลัก ได้แก่
- Shibuya Tsutaya Bookstore
? วันที่ 1–14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 - Tokyo Deaflympics 2025 “Miru Tech”
? วันที่ 14–26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
? National Olympics Memorial Youth Center - Daikanyama Tsutaya Bookstore
? วันที่ 1–14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
? ข้อมูลเพิ่มเติม
? เว็บไซต์หลัก: https://ontelope.com/
? หน้าผลิตภัณฑ์: https://ontelope.com/glass
✨ บทส่งท้าย
“ONTELOPE Glass” ไม่ได้เป็นเพียงแว่นตาอัจฉริยะ แต่คือ “สื่อกลางระหว่างเสียงและแสง” ที่เปลี่ยนการรับรู้ของมนุษย์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางกายภาพ
นี่คือก้าวสำคัญของ Human Augmentation — เมื่อเทคโนโลยีไม่ได้แค่ช่วยชีวิต แต่ “ขยายความหมายของการมีชีวิตอยู่” ให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย
ที่มา
prtimes.jp