Maidev XR

MaidevXR เว็บบล็อก เกี่ยวกับเรื่อง XR – MR – AR – VR – AI – IT ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เกม และ เทคโนโลยี

XREAL Aura จุดตัดใหม่ของ AR และ VR บน Android XR

1 min read

แว่น AR โปร่งใสรุ่นแรกที่รัน Android XR เต็มระบบ พร้อมมุมมองกว้าง 70°
ประสบการณ์ใช้งานจริง ที่ทำให้เห็นชัดว่า “อนาคตของแว่น XR” กำลังบรรจบกันจริง ๆ


Hands-on: XREAL Aura กับ Android XR ครั้งแรก

Google เปิดให้ทดลอง XREAL Aura เป็นการส่วนตัว โดยนี่คือ แว่น AR แบบ see-through รุ่นแรกที่รัน Android XR แบบ immersive เต็มรูปแบบ และมีกำหนดเปิดตัวในปี พ.ศ. 2569

แม้จะเป็นแว่น AR เต็มระบบ แต่ตัวแว่นกลับ เล็กและบางกว่าที่คาดไว้มาก จุดสำคัญคือ XREAL เลือก “แยกสมองออกจากหัว” โดยย้ายแบตเตอรี่และหน่วยประมวลผลไปอยู่ใน puck ที่พกใส่กระเป๋าได้
รูปร่างของ puck คล้ายสมาร์ทโฟน แต่ทั้งแผ่นคือ trackpad ขนาดใหญ่ ใช้ควบคุมแทนเมาส์ (เสริมจาก hand-tracking)

เมื่อเทียบกับแว่น XREAL รุ่นก่อนที่ใช้เลนส์แบบ bird-bath รุ่นนี้ เลนส์เล็กลงและชิดตาขึ้น ทำให้ทรงแว่นเริ่มเข้าใกล้ “แว่นตาจริง” มากขึ้น ถึงจะยังดูแปลกนิด ๆ แต่ถือว่าไปถูกทางแล้ว


ประสบการณ์ใช้งานจริง: Android XR บนโลกจริง

เมื่อสวมแว่น ภาพที่เห็นคือ อินเทอร์เฟซ Android XR แบบเดียวกับ Galaxy XR
แต่ต่างตรงที่ฉากหลังคือ โลกจริง (แม้จะค่อนข้างมืดเพราะแสงผ่านเลนส์)

จุดที่น่าเสียดายคือ Aura ยังไม่มี eye-tracking
หมายความว่าไม่สามารถใช้วิธีควบคุมแบบ “มอง + บีบนิ้ว” ได้ ต้องใช้ เลเซอร์พอยเตอร์ ซึ่งเทอะทะกว่า และย้อนยุคกว่าอย่างชัดเจน


FOV 70°: พอใช้ แต่ก็แค่ขั้นต่ำ

XREAL ระบุว่า Aura มีมุมมองกว้าง 70 องศา (น่าจะเป็นค่า diagonal)
จากการลองใช้งานจริง มุมมองระดับนี้ถือว่า ใช้งาน Android XR ได้จริง แต่ก็เป็น เส้นขั้นต่ำ ที่ระบบ immersive ควรมี

พูดตรง ๆ ถ้าจะให้ Android XR ไปได้ไกลกว่านี้
70° ไม่ควรเป็นเป้า แต่ควรเป็น baseline สำหรับอุปกรณ์ XR รุ่นถัดไป


ภาพคม สว่าง แต่ยังมี “pupil swim”

คุณภาพจอถือว่าดีมาก ทั้งความคมและความสว่าง เหมาะกับการใช้งานเป็นจอเสมือน ดูเว็บ วิดีโอ หรือทำงานหลายหน้าต่าง

แต่ยังพบ pupil swim หรืออาการภาพบิดเมื่อขยับศีรษะ
บางคนอาจแค่รำคาญตา แต่สำหรับบางคนอาจทำให้เวียนหัวได้ โดยเฉพาะในแอพ immersive หรือการ multitasking
และด้วยการที่ไม่มี eye-tracking ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าจะปรับปรุงจุดนี้ได้แค่ไหนก่อนวางขายจริง


เลนส์หรี่แสงไฟฟ้า: ฟีเจอร์ที่คิดมาดีมาก

หนึ่งในไฮไลต์ของ Aura คือ เลนส์หรี่แสงแบบไฟฟ้า
กดปุ่มที่ขาแว่น สามารถปรับความทึบตั้งแต่ 0% จนเกือบ 100%

จุดที่ฉลาดคือ การผนวกเข้ากับ Android XR โดยตรง

  • แอพ immersive → ระบบสั่งหรี่แสงเป็น 100% อัตโนมัติ
  • แอพดูหนัง → หรี่แสงบางส่วน เช่น 50%
    นักพัฒนาไม่ต้องสนใจว่าดีไวซ์ใช้ passthrough หรือเลนส์จริง ระบบจัดการให้เอง

แม้จะหรี่ 100% ก็ยังเห็นโลกจริงจากหางตาอยู่ดี (เพราะเป็นทรงแว่น)
แต่ฟีเจอร์นี้ทำให้ VR-like experience บนแว่น AR เป็นไปได้จริง


ใส่ในชีวิตจริงได้… แต่ยังไม่ทุกสถานการณ์

รูปลักษณ์โดยรวม ใกล้เคียงแว่นกันแดดมากพอที่จะ ใส่ในที่สาธารณะได้โดยไม่โดดเด่นเกินไป
บนเครื่องบิน หรือร้านกาแฟ ดูมีเหตุผลกว่า VR headset แบบเต็มหัวเยอะ

อย่างไรก็ตาม แม้จะตั้งค่าเลนส์ที่ 0% โลกจริงก็ยังค่อนข้างมืด
ให้ความรู้สึกเหมือนใส่แว่นกันแดดในอาคาร
ทำให้ use case บางอย่าง เช่น ใช้เป็นผู้ช่วยทำอาหารในครัว ยังไม่เหมาะเท่าไร


บทสรุป: ภาพแรกของการ “หลอมรวม” AR และ VR

จากการลองใช้งานสั้น ๆ XREAL Aura คือ ภาพชัดที่สุดในตอนนี้ของการบรรจบกันระหว่าง AR และ VR
มันคือ Android XR เต็มรูปแบบ แต่ย่อส่วนให้อยู่ในฟอร์มแว่นที่พกพาได้จริง

การที่ Google เปิดตัว PC Connect สำหรับ Android XR ควบคู่กัน
ยิ่งตอกย้ำว่า Aura ถูกวางบทบาทเป็นอุปกรณ์ productivity และ media แบบพกพาอย่างจริงจัง

สิ่งที่ยังไม่รู้:

  • สเปคเต็ม (จอ, ชิป, น้ำหนัก)
  • รองรับคอนโทรลเลอร์หรือไม่
  • ราคา

แต่สิ่งที่ยืนยันแล้วคือ XREAL Aura จะเปิดตัวในปี พ.ศ. 2569
และมันอาจเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ XR “ออกจากบ้าน” ได้จริงเป็นครั้งแรกครับ

ที่มา