Maidev XR

MaidevXR เว็บบล็อก เกี่ยวกับเรื่อง XR – MR – AR – VR – AI – IT ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เกม และ เทคโนโลยี

Ray-Ban พุ่งแรง! แต่ Quest กลับซบเซา — Meta พลิกเกมอีกครั้งในตลาด XR ยอดขายแว่นตาอัจฉริยะพุ่ง 200% ดันรายได้ Meta โต แต่ Quest กลับขายไม่ออก 2 ไตรมาสติด

Ray-Ban พุ่งแรง! แต่ Quest กลับซบเซา — Meta พลิกเกมอีกครั้งในตลาด XR ยอดขายแว่นตาอัจฉริยะพุ่ง 200% ดันรายได้ Meta โต แต่ Quest กลับขายไม่ออก 2 ไตรมาสติด

Ray-Ban พุ่งแรง! แต่ Quest กลับซบเซา — Meta พลิกเกมอีกครั้งในตลาด XR ยอดขายแว่นตาอัจฉริยะพุ่ง 200% ดันรายได้ Meta โต แต่ Quest กลับขายไม่ออก 2 ไตรมาสติด

แม้แว่น Ray-Ban Meta จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ยอดขายชุดเฮดเซต Quest กลับสวนทางอย่างน่าตกใจ
Meta จึงเร่งปรับแผนใหม่ พร้อมทุ่มลงทุนในเทคโนโลยีอนาคต หวังพลิกเกมในยุค XR อย่างยั่งยืน

ในไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2568 รายได้ของ Meta จากแผนก Reality Labs ซึ่งดูแลด้าน “เมตาเวิร์สและอุปกรณ์สวมใส่” กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยมีรายได้ 370 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,430 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

แต่เบื้องหลังตัวเลขที่ดูดีนี้ มาจากยอดขายของแว่น Ray-Ban Meta ที่พุ่งแรงเกินคาด ขณะที่ยอดขายชุดเฮดเซต Quest กลับลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน

Susan Li ประธานฝ่ายการเงินของ Meta ยอมรับกับนักลงทุนว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากยอดขาย Ray-Ban Meta ที่สูงขึ้นมาก และถูกชดเชยบางส่วนด้วยยอดขาย Quest ที่ลดลง ซึ่งประโยคนี้ เธอก็กล่าวแบบเดียวกันในไตรมาสก่อนหน้านี้เช่นกัน

สิ่งที่ยืนยันกระแสดังกล่าวได้ดีที่สุดคือข้อมูลจาก EssilorLuxottica พาร์ตเนอร์ของ Meta และเจ้าของแบรนด์ Ray-Ban ซึ่งเปิดเผยว่ายอดขายแว่น Ray-Ban Meta ปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


Quest 3S ขายดีแค่ช่วงคริสต์มาส?

Quest 3S เปิดตัวแรงมากในช่วงเทศกาลปลายปี ส่งผลให้รายได้ของ Reality Labs ในไตรมาสก่อนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เมื่อพ้นช่วงนั้นไป ยอดขายกลับตกลงอย่างเห็นได้ชัด และยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัว

นักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุสำคัญคือ Quest 3S อาจถูกมองว่าเป็น “ของขวัญ” มากกว่า “ของที่คนอยากซื้อใช้เอง” เมื่อพ้นฤดูของขวัญ ยอดขายก็ซบเซาทันที


Meta เร่งปรับแผนใหญ่

จากสถานการณ์นี้ Meta ได้ตัดสินใจทบทวนแผนการผลิตชุดเฮดเซตใหม่ โดยยกเลิกโครงการ Quest 4 ที่วางแผนไว้เดิม และเร่งพัฒนาเฮดเซตรุ่นใหม่ที่เบาและบางกว่ามาก พร้อมเชื่อมต่อกับกล่องประมวลผลภายนอก (tethered compute puck) และใช้ระบบ Horizon OS

นอกจากนี้ Meta ยังเตรียมเปิดระบบ Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น Asus และ Lenovo นำไปใช้ในชุดเฮดเซตของตัวเองได้


แว่นอัจฉริยะยังไปต่อไม่หยุด

นอกจาก Ray-Ban Meta รุ่นปัจจุบัน Meta และ EssilorLuxottica ยังเตรียมเปิดตัว Oakley Meta HSTN รุ่นลิมิเต็ดแล้ว และรุ่นปกติกำลังจะวางขายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อนาคตยังมี Oakley Meta Sphaera ที่จะเปิดตัวช่วงปลายปี และ Meta Celeste แว่นอัจฉริยะระดับไฮเอนด์ของ Meta เองที่มาพร้อมหน้าจอ HUD ขนาดเล็ก และสายรัดข้อมือ sEMG สำหรับควบคุมด้วยนิ้ว ซึ่งคาดว่าจะมีราคามากกว่า $1,000 (ประมาณ 36,300 บาท)


ขาดทุน แต่ลงทุนเพื่ออนาคต

แม้ Reality Labs จะมีรายได้ 370 ล้านดอลลาร์ แต่ค่าใช้จ่ายกลับสูงถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 177,900 ล้านบาท) ทำให้ขาดทุนถึง 4.53 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 164,500 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม Meta มองว่านี่คือ “การลงทุนระยะยาว” โดยมากกว่า 50% ของงบถูกใช้ไปกับการวิจัยและพัฒนาแว่น AR ซึ่งยังไม่เปิดตัว

Mark Zuckerberg เคยกล่าวไว้ว่า “เมตาเวิร์ส” คือเป้าหมายระยะยาว ที่จะสร้างผลตอบแทนระดับทศวรรษ ไม่ใช่ปีสองปี


สรุป:
Ray-Ban Meta ขายดีสวนกระแส แต่ Quest ยังต้องหาทางรอดใหม่ ๆ
Meta เดินหน้าทุ่มงบอย่างหนักในเทคโนโลยี AR/XR หวังเปลี่ยนโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า

ที่มา

https://www.uploadvr.com/meta-reality-labs-q2-2025-revenue-quest-sales-still-down