INMO AIR3 vs Meta Display จุดเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ของแว่นตาอัจฉริยะ การต่อสู้ระหว่างนวัตกรรมจีนกับพลังแฟชั่น + AI จากตะวันตก
1 min read
INMO AIR3 vs Meta Display จุดเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ของแว่นตาอัจฉริยะ การต่อสู้ระหว่างนวัตกรรมจีนกับพลังแฟชั่น + AI จากตะวันตก
ในงาน Meta Connect ที่ผ่านมา Meta ได้เปิดตัว Ray-Ban Display แว่นตา AR รุ่นแรกของตนที่มาพร้อมจอโมโนคูลาร์สีเต็มรูปแบบ ขับเคลื่อนด้วย AI และผสานดีไซน์แฟชั่นจาก Ray-Ban ขณะเดียวกัน INMO AIR3 จากจีนซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกเส้นทาง Waveguide AR มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ยังคงสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดด้วยสเปกที่เหนือกว่าและการผลิตเชิงพาณิชย์ที่จับต้องได้จริง

📊 ตารางเปรียบเทียบสเปก
คุณสมบัติ | INMO AIR3 | Meta Ray-Ban Display |
---|---|---|
จอแสดงผล | Sony Micro-OLED, เวฟไกด์ออปติคัลอาร์เรย์, จอสองตาสีเต็มรูปแบบ | Lumus, เวฟไกด์ออปติคัลอาร์เรย์, จอโมโนคูลาร์ (ตาขวา) |
ความละเอียด | 1080P | 600P |
ความสว่าง | 600 nits | 30 – 5000 nits |
มุมมอง (FOV) | 36° | 20° |
รีเฟรชเรต | 60Hz – 120Hz | สูงสุด 90Hz |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 4nm (8-core) | Qualcomm Snapdragon AR1 Gen1 |
หน่วยความจำ/เก็บข้อมูล | 8GB RAM + 128GB Storage | 2GB RAM + 32GB Storage |
กล้อง | 16 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120° | 12 ล้านพิกเซล + ซูมดิจิทัล 3x |
วิดีโอ | 1080P Recording | 1440×1920 @30fps |
การวิเคราะห์
- INMO AIR3: เด่นชัดด้าน “ฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบ” ทั้งจอสองตา 1080P, RAM 8GB + Storage 128GB และรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz ให้ภาพเสมือนจริงชัดเจน เหมาะกับการใช้งาน AR เชิงลึก เช่น ทำงาน เล่นเกม และโซเชียล
- Meta Ray-Ban Display: เน้น “AI + ไลฟ์สไตล์” มากกว่า ด้วยจอโมโนคูลาร์ 600P ที่แม้ความละเอียดน้อยกว่า แต่ปรับสว่างได้ถึง 5000 nits ใช้กลางแจ้งได้ดี เสริมด้วย Meta Neural Band ที่พลิกวิธีควบคุมแว่นผ่านข้อมือ
สรุป: ศึกกำหนดอนาคต AR Glasses
Meta กำลังผลักดันให้แว่นตา AR เข้าสู่กระแสหลักผ่านแบรนด์แฟชั่นและ AI Ecosystem ขณะที่ INMO AIR3 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของจีนที่แข็งแกร่งกว่าในแง่ของคุณภาพภาพและประสบการณ์ใช้งาน
และที่น่าจับตาคือวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568 กับการเปิดตัว INMO GO3 ซึ่งจะมาพร้อมดีไซน์ใหม่หลาย SKU รองรับรูปหน้าและสไตล์ที่หลากหลาย รวมถึงโซลูชันแก้โจทย์แบตเตอรี่ เพื่อมุ่งสู่มาตรฐาน “ใส่ได้ทั้งวันจริง ๆ”
นี่จึงไม่ใช่เพียงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ แต่คือ สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่กำลังพาแว่นตาอัจฉริยะเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง
ที่มา
vrtuoluo