แว่น AI จาก ByteDance กำลังจะมา พร้อมเปลี่ยนไลฟ์สดให้สมจริงยิ่งกว่าตาเห็น เมื่อเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มรวมเป็นหนึ่งเดียว

เมื่อ Douyin หรือ Tiktok ไม่หยุดแค่แพลตฟอร์ม… แต่ขยับเข้าสู่โลกของฮาร์ดแวร์ พร้อมแว่น AI ที่อาจเป็นหมัดเด็ดของปี พ.ศ. 2568

แค่ไลฟ์สดมือถือมันยังไม่พอ! ByteDance เตรียมส่ง “ชุดเฮดเซต AI แว่นตา” ที่ใส่แล้วเห็นโลกผ่านสายตาของครีเอเตอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมฟีเจอร์จากโมเดล Doubao “豆包” ที่จะเปลี่ยนทุกการถ่ายทอดสดให้กลายเป็นประสบการณ์อัจฉริยะ!

---

AI แว่นตา: ฮาร์ดแวร์ไพ่เด็ดใบต่อไปของ ByteDance

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2568 ในการประชุมพนักงานทั่วทั้งบริษัท CEO ของ ByteDance อย่าง “เหลียงหรูปัว” ประกาศเป้าหมายใหญ่ของปีนี้ นั่นคือ “การสร้างสรรค์การโต้ตอบรูปแบบใหม่” ซึ่งการนิยามนั้นก็มุ่งไปยังอุปกรณ์ AI ที่สวมใส่ได้… และใช่ครับ มันคือ “แว่นตา AI”

เพื่อปูทางไปสู่อนาคตดังกล่าว ByteDance จึงเข้าซื้อแบรนด์ชุดเฮดเซต “Oladance” จาก Shenzhen Dashi Future Tech และปล่อย Ola Friend หูฟัง AI ที่เน้นผู้ช่วยอัจฉริยะด้านเสียงออกมาในปี พ.ศ. 2567 ทว่า Ola Friend กลับยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดได้ เพราะตลาดชุดเฮดเซตไร้สายเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด และนวัตกรรมเพียง AI Assistant ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเกม

แว่นตา AI ที่ “เห็น” และ “คิด” ได้จริง

รายงานจากหลายแหล่งยืนยันว่า ByteDance กำลังพัฒนาแว่นตา AI แบบจริงจัง โดยเริ่มตั้งแต่การจ้างวิศวกรสายฮาร์ดแวร์ เพื่อออกแบบชิป กล้อง และระบบประมวลผลที่สมดุลระหว่าง “คุณภาพภาพถ่าย” และ “อายุแบตเตอรี่”

มีการพิจารณาใช้ชิป Hengxuan 2800 ควบคู่กับชิป ISP จากแบรนด์ Yanjimi ที่ให้ภาพคมชัดในต้นทุนต่ำกว่าชิป Qualcomm AR1 แต่ก็ต้องแลกมากับความซับซ้อนในการปรับแต่งอัลกอริธึมภาพถ่ายโดยไม่มีหน้าจอแสดงผลเหมือนสมาร์ทโฟน

ด้วยขนาดที่จำกัด และแบตเตอรี่ที่เล็ก ความท้าทายจึงอยู่ที่การทำให้ชุดเฮดเซตนี้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงต่าง ๆ ได้อย่างคมชัดโดยอัตโนมัติ — ตั้งแต่แดดจ้าไปจนถึงห้องมืด

แว่นตา AI คือคำตอบ

โมเดล AI “豆包” (Doubao) ที่ ByteDance พัฒนาขึ้นเอง เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานในจีนเกือบ 60 ล้านคนต่อเดือนภายในปลายปี พ.ศ. 2567 ตัวโมเดลล่าสุด Doubao 1.5 ใช้สถาปัตยกรรม MoE (Mixture of Experts) และสามารถทำงานด้านคณิตศาสตร์ เขียนโค้ด ไปจนถึงงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างแม่นยำ

เพื่อให้โมเดลเหล่านี้ได้ฝึกฝนและใช้งานใน “โลกจริง” ByteDance ต้องการฮาร์ดแวร์ของตนเอง เพื่อเก็บข้อมูลมัลติโมดอล เช่น ภาพ เสียง ตำแหน่ง และการเคลื่อนไหว โดยตรงจากผู้ใช้ ซึ่งแว่นตา AI นี่แหละคือตัวเชื่อมโยงวงจร “ข้อมูล -> AI -> ฮาร์ดแวร์” อย่างแท้จริง

Douyin คือสนามรบ และ “AI ไลฟ์สด” คืออาวุธลับ

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการรวมพลังของแว่นตา AI เข้ากับแพลตฟอร์ม Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน) เพื่อทำ “First Person View Live” หรือการไลฟ์สดผ่านมุมมองของผู้สวมใส่ชุดเฮดเซตโดยตรง

ข้อดีคือ:

• ✅ เพิ่มความสมจริง สร้างประสบการณ์ “มุมมองที่ผู้ไลฟ์เห็นจริง ๆ”
• ✅ ปลดล็อกการใช้มือสองข้าง ทำกิจกรรมได้อิสระขณะไลฟ์
• ✅ เหมาะกับสายท่องเที่ยว ทำอาหาร ไลฟ์ขายของ หรือโชว์ทักษะ

แม้การเชื่อมต่อ API ไลฟ์สดโดยตรงจากแว่นตาจะไม่ง่ายในหลายแพลตฟอร์ม แต่ Douyin คือของ ByteDance เอง — ทุกอย่างจึงเป็นไปได้ และน่าจะกลายเป็น “จุดขาย” ที่ต่างจาก AI แว่นตาค่ายอื่นอย่างชัดเจน

แว่นตา AI ราคาเท่าไหร่?

แม้ต้นทุนการผลิต (BOM) จะสามารถคุมให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1,000 หยวน (~4,900 บาท) แต่คาดว่าราคาขายจริงน่าจะเริ่มต้นราว 2,000 หยวน (≈ 9,800 บาท) ขึ้นไป เพราะ ByteDance คงไม่เดินเกมขาดทุนแบบยุคแรกของ PICO อีกต่อไป

---

การ “ผูกกับ Douyin” ถือเป็นกลยุทธ์ตลาดที่ ByteDance ต้องเดินแน่นอน และในความเป็นจริง แนวทางการโปรโมตแบบนี้ก็เคยใช้มากับ PICO มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสดแบบ VR บน Douyin, การแสดงวิดีโอแบบ 360 องศา หรือแม้กระทั่งการเลื่อนดู Douyin บน PICO ล้วนเป็นความพยายามในการผลักดันยอดขายฮาร์ดแวร์ด้วยการนำเสนอรูปแบบคอนเทนต์ที่แตกต่าง

สำหรับ ByteDance แล้ว เรื่องเทคโนโลยีการไลฟ์และการรวมระบบซอฟต์แวร์กับแพลตฟอร์มไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากคือ… จะทำอย่างไรให้แว่นตา AI ถ่ายทอดไลฟ์สดได้ “ดี” จริง ๆ ซึ่งต้องคำนึงถึงการกันสั่นของภาพ ความละเอียดของวิดีโอ ความหน่วงของเครือข่าย และเหนืออื่นใดคือข้อจำกัดของแบตเตอรี่ในตัวแว่น ที่มีขนาดเล็ก จะจัดสมดุลอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุป: ByteDance ไม่ได้แค่ทำแอพ… เขากำลังทำอนาคต

แว่นตา AI รุ่นใหม่ของ ByteDance ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์เล่น ๆ แต่เป็นหมากกลยุทธ์ที่เชื่อมโยง Doubao, Douyin และผู้ใช้งานแบบครบวงจร ถ้าทุกอย่างลงล็อก นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุคแว่น AI ไลฟ์สด”

ที่มา
vrtuoluo